อาลัย อ.สมเกียรติ โอสถสภา นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ ประชุมเพลิงวันนี้ที่วัดชลประทาน

ผมโตมาในยุคที่ประเทศไทยจนมาก ล้าหลังหลายๆประเทศในย่านนี้ แต่ในวันที่ผมจากไป ประเทศไทยเป็นประเทศที่ทันสมัยและลงตัวที่สุดในหลายๆด้าน มีแต่คนอยากมาประเทศไทย

ในช่วงชีวิตของผม เราผ่านพ้นวิกฤติสงคราม เศรษฐกิจ และการเมืองมาหลายครั้ง เราเอาตัวรอดมาได้จากทุกสถานการณ์ของโลก

เฟสนี้ผมสร้างขึ้นมาเพื่อยับยั้งภัยสงครามกลางเมืองเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ตอนนั้นถ้าเราเอาตัวไม่รอด ประเทศไทยก็ไม่ต่างอะไรกับยูเครนตอนนี้

เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เราก็ผ่านพ้นจากการล้มล้างวัฒนธรรมมาได้ ตอนนี้ก็เห็นกันแล้ว ว่าประเทศที่พลาด ทำลายวัฒนธรรมตัวเองไป โหยหาตัวตนแค่ไหน

โลกเปลี่ยนไปเยอะ และกำลังจะเปลี่ยนอีกครั้งใหญ่ ตีโจทย์กันดีๆ นะ อย่าชักศึกเข้าบ้านเพียงเพื่อจะเอาชนะกันทางการเมือง ช่วยกันดูให้สงครามไม่มาลงย่านนี้ แถวนี้เราสนใจกันแต่หาเงินหาทองแล้ว

ส่วนเฟสนี้จะเปิดทิ้งไว้ ลูกชายผมคงมาเขียนเพิ่มให้บ้าง เค้าช่วยผมทำเฟสนี้มาแต่แรก
ขอให้ทุกคนอายุยืน ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนกันมานาน ว่าจะอยู่ให้นานกว่านี้อีกหน่อย แต่เมื่อถึงเวลาไปก็ต้องไป ชีวิตมันก็แค่นี้”

ด้านเฟซบุ๊ก Chaiyan Chaiyaporn ของ ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความระบุว่า “ระลึกถึง อาจารย์สมเกียรติ โอสถสภา ขอแสดงความเสียใจในการจากไปของท่าน รู้จักท่านมาตั้งแต่ผมยังเป็นนิสิต”

ส่วนเฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich ของ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความระบุว่า “ผมได้รับทราบข่าวการจากไปอย่างกระทันหันของ รศ. ดร. สมเกียรติ โอสถสภา อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬา ผู้ปราดเปรื่อง ฉลาดเฉลียวสุดๆ คนหนึ่งที่เคยได้รู้จักมา เสียดายความรู้ความสามารถเป็นอย่างยิ่งครับ

ผมกับอาจารย์สมเกียรติ เคยช่วยกันออกมาบอกเตือนภัยสังคมเรื่อง บิทคอยน์และคริปโตเคอเรนซี่ที่คนบ้าคลั่งเข้าไปลงทุน ผลที่ได้รับคืออาจารย์สมเกียรติและผมถูกด่าหาว่าคนจะร่ำจะรวยไปขัดขวาง แต่เวลาที่มันล่มสลายไม่เห็นขอบใจเราสักกะคนเดียว อาจารย์ยังส่งข้อความมาบอกผมว่า เราได้เตือนแล้ว ใครจะไม่ฟังก็ช่างเขา เราทำหน้าที่ของเราแล้ว ประมาณนี้ครับ

ขอกราบลาอาจารย์ด้วยความรำลึกถึงยิ่งครับ เสียดายที่จะไม่ได้อ่านบทความและความรู้ดีๆ จากอาจารย์อีกครับ”

ส่วน นายชมัยภร แสงกระจ่าง ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2557 ได้แต่งกลอนไว้อาลัย ใจความว่า

“เป็นพี่ค่ายครั้งเก่าเราจำได้
มีความคิดก้าวไกลมีเหตุผล
มีวาทะวิชาการบันดาลดล
เป็นหนึ่งคนสร้างพลังให้สังคม

บัดนี้ร่วงลาไกลสัมปรายภพ
แต่มิลบความจริงจังที่สั่งสม

ขอคุณงามความดีที่พี่สร้าง
และทุกอย่างที่เป็นบุญอุ่นกุศล
ส่งพี่สู่สรวงสวรรค์อันอำพน
บูรณะทุกคนน้อมอำลา”

ขณะที่เฟซบุ๊ก Panitan Wattanayagorn ของ รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความระบุว่า “กลางดึกก่อนที่จะเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 สักพักใหญ่ ผมลงมาที่ใต้ถุนตึกหอพักในมหาวิทยาลัย ก็พบท่านอาจารย์สมเกียรติ โอสถสภา นั่งสูบบุหรี่อยู่คนเดียวเงียบๆ (ตอนนั้นยังอนุญาตให้สูบกันได้) ท่าทางท่านอาจารย์เคร่งเครียด บอกผมว่านอนไม่หลับ เป็นห่วงว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ขึ้นในประเทศไทย แบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และคล้ายๆ กับที่เคยเกิดขึ้นในลาตินอเมริกา แล้วท่านอาจารย์ก็วาดภาพลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบให้ผมฟังเป็นชั่วโมงๆ ผมเองตอนนั้นก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ตื่นเต้นและสนใจ ก็เลยโทร.ไปเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง โดยเฉพาะคนที่เล่นหุ้นและทำธุรกิจร่ำรวย ยังจำได้ว่าทุกคนไม่เชื่อ หัวเราะกันใหญ่ บอกผมว่าคิดมาก และก็ยังชวนให้ออกไปทำมาค้าขายกับเขาด้วย

ก่อนการเลือกตั้งปี 2562 ท่านอาจารย์สมเกียรติก็บอกผมอีกว่า คนหนุ่มคนสาวคนในเมืองในหัวเมืองและโดยเฉพาะในสังคมออนไลน์ ส่วนใหญ่จะคิดเรื่องการเมืองและลงคะแนนเลือกตั้งไม่เหมือนกลุ่มอื่นๆ หรือกลุ่มเดิมๆ และจะทำให้เกิดปรากฏการณ์ทางการเมืองใหม่อย่างที่เราไม่ค่อยเคยเห็นมาก่อน

หลายปีที่ผ่านมานี้ ผมได้รับความรู้จากท่านอาจารย์สมเกียรติในหลายๆ เรื่อง บางเรื่องก็นึกกันไปไม่ถึง แต่ทุกเรื่องก็ได้พยายามนำมาให้ส่วนรวมทราบ จะได้นำไปใช้ประโยชน์หรือเตรียมตัวกันได้ถูก ช่วงหลังๆ ท่านอาจารย์เริ่มมีอายุมากขึ้น แต่ก็ยังกรุณาส่งลูกชายมาช่วยงาน หรือยังเข้ามาแนะนำและให้ความรู้พวกเราทางออนไลน์อยู่เสมอๆ

พรุ่งนี้ (10 เม.ย.) จะมีการประชุมเพลิง ณ วัดชลประทานฯ ในเวลา 14.00 น. ขอให้ดวงวิญญาณของท่านอาจารย์ไปสู่สัมปรายภพ และขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับภรรยา ลูกชายและครอบครัวของท่านอาจารย์ด้วยครับ”